วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2563

มหาปรัชญาปารมิตา – หฤทัยสูตรของเจ้าแม่กวนอิม




มหาปรัชญาปารมิตา – หฤทยสูตฺร

(ของอวโลกิเตศวร)




आर्य आवलोकितेश्वरो बोधिसत्त्वो गम्भीरं
प्रज्ञापारमिताचार्यां चरमाणो
व्यवलोकयति स्म, पञ्चस्कन्धास्तांश्च
स्वभावशून्यान् पश्यति स्म.


इह शारिपुत्र रूपं शून्यता, शून्यत्ऽऐव रूपं,
रूपान्न पृथक्शून्यता,
शून्यताया न पृथग्रूपं,
यद्रूपं सा शून्यता,
या शून्यता तद्रूपं.
एवमेव वेदनासंज्ञासंस्काराविज्ञानम्.


इह शारिपुत्र सर्वधर्माः शून्यतालक्षणा
अनुत्पन्ना अनिरुद्धा अमला अविमला अनूना अपरिपूर्णाः.
तस्माच्छारिपुत्र शून्यतायां न रूपं
न वेदना न संज्ञा न संस्काराः न विज्ञानं,
न चक्षुःश्रोत्रघ्राणजिह्वाकायमनांसि,
न रूपशब्दगन्धरसस्प्रष्टव्यधर्माः,
न चक्षुर्धातुर्यावन्न मनोविज्ञानधातुः,
न्ऽआविद्या न्ऽआविद्याक्षयो यावन्न जरामरणं
न जरामरणक्षयो न दुःखसमुदयनिरोधमार्गा
न ज्ञानं न प्राप्तिर्न्ऽआप्राप्तिः.


तस्माच्छारिपुत्र अप्राप्तित्वाद्बोधिसत्त्वो
प्रज्ञापारमितामाश्रित्य विहरत्यचित्त्ऽआवरणः.
चित्त्ऽआवरणनास्तित्वादत्रस्तो
विपर्यास्ऽआतिक्रान्तो निष्ठानिर्वाणः.
त्रध्वव्यवस्थिताः सर्वबुद्धाः
प्रज्ञापारमितामाश्रित्य अनुत्तरां
सम्यक्सम्बोधिमभिसम्बुद्धाः.


तस्माज्ज्ञातव्यं प्रज्ञापारमिता महामन्त्रो
महाविद्यामन्त्रोऽनुत्तरमन्त्रो
समसममन्त्रः सर्वदुःखप्रशमनः सत्यममिथ्यत्वात्.
प्रज्ञापारमितायामुक्तो मन्त्रः, तद्यथा
ओं गते गते पारगते पारसंगते बोधि स्वाहा.




(รูปพระมัญชูศรี โพธิสัตว์แห่งปัญญา พระอวโลกิเตศวร [กวนอิม] โพธิสัตว์แห่งเมตตา พระสมันตภัทร โพธิสัตว์แห่งวิริยะ)


ต้นฉบับ - ओं गते गते पारगते पारसंगते बोधि स्वाहा.ปริวรรต - โอมฺ คเต คเต ปารคเต ปารสังคเต โพธิ สวาหา 
แปล - 唵 揭諦,揭諦,波羅揭諦,波羅僧揭諦, 菩提,薩婆訶。
ปริวรรต - งัน เจีย ตี้, เจีย ตี้, ปอ หลอ เจีย ตี้, ปอ หลอ เซิง เจีย ตี้, ผู ถี ซ่า หมอ เฮอ. (ทับศัพท์- สันสกฤต)
แปล – โอม ไป ไป ข้ามไปให้พ้น ให้พ้นที่สุด ถึงความรู้แจ้ง เทอญ
(สวด 3 จบ)



ต้นฉบับ - महाप्रज्ञापारमिता -हृदयसूत्र
ปริวรรต - มหาปฺรชฺญาปารมิตา – หฤทยสูตฺร แปล – 摩訶般若波羅蜜多心經。
ปริวรรต - มอ ฮอ ปอ เย ปอ ลอ มิก ตอ (ทับศัพท์ – มหาปฺรชฺญาปารมิตา) ซิม เกง.
แปล – พระสูตรหัวใจแห่งปัญญาและบารมี



ต้นฉบับ – आर्य अवलोकितेश्वरो बोधिसत्त्वो गम्भीरं प्रज्ञापारमिताचार्यां चरमाणोव्यवलोकयति
ปริวรรต – อารฺย อวโลกิเตศฺวโร โพธิสตฺตฺโว คมฺภีรํ ปฺรชฺญาปารมิตาจารฺยำ จรมาโณ วฺยวโลกยติ
แปล - 觀自在菩薩,行深般若波羅蜜多時,
ปริวรรต - กวน จือ ใจ - ผู่ สัก. (ทับศัพท์-โพธิสตฺตโว) ฮัง ชิม - ปอ เย ปอ ลอ มิก ตอ (ทับศัพท์- ปฺรชฺญาปารมิตา) ซือ.
แปล - พระผู้ทอดสายตาคอยช่วยเหลือสรรพสัตว์ ยามปฏิบัติลึกซึ้งซึ่งปัญญาและบารมี



ต้นฉบับ - स्म, पञ्चस्कन्धास्तांश्च स्वभावशून्यान् पश्यति स्म.ปริวรรต - สฺม ปณฺจสฺกนฺธาสฺตาษฺจ สฺวาภว ศูนฺยานฺ ปศฺยติ สฺม.
แปล - 照見五藴皆空,度一切苦厄。
ปริวรรต - เจียว เกียน อู วัน ไก คง. ดู อี ไซ คู หงุก.
แปล - เห็นแจ้งว่าสิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นมนุษย์ล้วนว่างเปล่า จึงข้ามพ้นทุกข์ทั้งหลาย


ต้นฉบับ - इह शारिपुत्र रूपं शून्यता, शून्यत्ऽऐव रूपं, रूपान्न पृथक्शून्यता, शून्यताया न पृथग्रूपं
ปริวรรต – อิห ศาริปุตฺร – รูปํ ศูนยตา ศูนฺยไตว รูปํ, รูปานฺ น ปฤถกฺ ศูนฺยตา ศูนฺยตายา น ปฤถคฺรูปํ
แปล -舍利子,色不異空,空不異色,
ปริวรรต – เส ลี จือ, เสก ปุก ฮี คง. คง ปุก อี เสก.
แปล - สารีบุตร, รูปลักษณ์ไม่ต่างจากความว่างเปล่า,ความว่างเปล่าไม่ต่างจากรูปลักษณ์



ต้นฉบับ - यद्रूपं सा शून्यता, या शून्यता तद्रूपं.ปริวรรต – ยทรูปํ สา ศูนฺยตา , ยา ศูนฺยตา ตทฺรูปํ
แปล - 色即是空,空即是色。
ปริวรรต – เสก เจียก ซือ คง" คง เจียก ซือ เสก.
แปล - รูปลักษณ์คือความว่างเปล่าโดยแท้ ความว่างเปล่าโดยแท้คือรูปลักษณ์




ต้นฉบับ - एवमेव वेदनासंज्ञासंस्काराविज्ञानम्.ปริวรรต – เอวเมว เวทนาสํชฺญาสํสฺการาวิชฺญานํ
แปล -受、想、行、識:亦復如是。
ปริวรรต – เซา เซียง ฮัง เสก. หยิด ฝุก ยู่ ซือ.
แปล - ความรู้สึก ความจำ การปรุงแต่ง และการรับรู้ ก็เช่นเดียวกัน



ต้นฉบับ - इह शारिपुत्र सर्वधर्माः शून्यतालक्षणाปริวรรต – อิห ศาริปุตฺร สฺรวธรฺมาะ ศูนฺยตาลกฺษณา
แปล -舍利子,是諸法空相。
ปริวรรต – เส ลี จือ. ซือ จู ฝับ คง เซียง.
แปล - สารีบุตร,ธรรมชาติทั้งปวงล้วนแต่มีลักษณะที่ว่างเปล่า



ต้นฉบับ - अनुत्पन्ना अनिरुद्धा अमला अविमला अनूना अपरिपूर्णाः.ปริวรรต – อนุตฺปนฺนา อนิรุทฺธา, อมลา อวิมลา, อนูนา อปริปูรฺณาะ
แปล -不生不滅,不垢不淨,不增不減。
ปริวรรต – ปุก เซง ปุก มิก. ปุกเกียว ปุก เจง. ปุก เจง ปุก กำ.
แปล - ไม่เกิด ไม่ดับ, ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว, ไม่เต็ม ไม่พร่อง



ต้นฉบับ - तस्माच्छारिपुत्र शून्यतायां न रूपंปริวรรต – ตสฺมาจฺฉาริปุตฺร ศูนฺยตายำ น รูปํ
แปล -是故空中無色,
ปริวรรต – ซือ กู คง จง บู เสก.
แปล - ดังนั้น ภายในความว่างเปล่าจึงปราศจากรูปลักษณ์




ต้นฉบับ - न वेदना न संज्ञा न संस्काराः न विज्ञानं, न चक्षुःश्रोत्रघ्राणजिह्वाकायमनांसि,
ปริวรรต – น เวทนา น สํชฺญา น สํสฺการาะ น วิชฺญานํ, น จกฺษุะโศฺรตฺรฆฺราณชิหวากายมนำสิแปล - 無受、想、行、識;無眼、耳、鼻、舌、身、意,
ปริวรรต – บู เซา เซียง ฮัง เสก บู งันยือ พี เสก เซง อี.
แปล - ไร้ความรู้สึก ความจำ การปรุงแต่ง และการรับรู้ ;ไร้ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ




ต้นฉบับ - न रूपशब्दगन्धरसस्प्रष्टव्यधर्माः, न चक्षुर्धातुर्यावन्न मनोविज्ञानधातुः,ปริวรรต – น รูปศพฺทคนฺธรสสฺปฺรษฺฏฺวฺยธรฺมาะ, น จกฺษุรฺธาตุรฺยาวนฺน มโนวิชฺญานธาตุะ
แปล - 無色、聲、香、味、觸、法,無眼界,乃至無意識界,
ปริวรรต – บู เสก เซง เฮียง มี ฉก ฝับ. บู งัน ไก . ไน จี บู อี เสก ไก.
แปล - ไร้รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และอารมณ์ที่ใจคิด ,ไร้ผัสสะแห่งดวงตา แม้กระทั่งไร้ผัสสะแห่งดวงใจ



ต้นฉบับ - न्ऽआविद्या न्ऽआविद्याक्षयो, यावन्न जरामरणंन जरामरणक्षयो
ปริวรรต – น ‘ อาวิทฺยา น ‘ อาวิทฺยากฺษโย , ยาวนฺน ชรามรณํ น ชรามรณกฺษโย
แปล -無無明,亦無無明盡;乃至無老、死,亦無老、死盡。
ปริวรรต – บูบู เมง. หยิด บู บู เมง จิน. ไน จี บู เลา ซือ.หยิด บู เลา ซือ จิน.
แปล - ไร้ซึ่งความไม่รู้แจ้ง และยังไร้การสิ้นสุดของความไม่รู้แจ้ง กระทั่งความไม่แก่ชราและความตาย ยังรวมถึงการสิ้นไปของความแก่ชราและความตาย




ต้นฉบับ - न दुःखसमुदयनिरोधमार्गा , न ज्ञानं न प्राप्तिर्न्ऽआप्राप्तिःปริวรรต – น ทุะขสมุทยนิโรธมารฺคา , น ชฺญานํ น ปฺราปฺติรฺนฺ ‘อาปฺราปฺติะ
แปล - 無苦、集、滅、道,無智亦無得。
ปริวรรต – บู คู จิก หมิบ เตา. บู ตี หยิด บู เตก.
แปล - ไม่มีทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ การสิ้นไปแห่งทุกข์และวิถีแห่งการสิ้นทุกข์ ไม่มีความรอบรู้ ไม่มีการได้มาซึ่งความรอบรู้






ต้นฉบับ - तस्माच्छारिपुत्र अप्राप्तित्वाद्बोधिसत्त्वो प्रज्ञापारमितामाश्रित्य विहरत्यचित्त्ऽआवरणः.ปริวรรต – ตสฺมาจฺฉาริปุตฺร อปฺราปฺติตฺวาทฺโพธิสตฺตฺโว ปฺรชฺญาปารมิตามาศฺริตฺย วิหรตฺยจิตฺตฺ ‘ อาวรณะ
แปล -以無所得故,菩提薩埵,依般若波羅蜜多故。
ปริวรรต – อี บู ซอ เต๊ก กู. ผู่ ที สัก ตอ. อี ปอ เย ปอ ลอ มิก ตอ กู.
แปล - ด้วยเหตุที่ไร้การจะได้มาซึ่งความรอบรู้ พระโพธิสัตว์จึงดำเนินตามครรลองแห่งปัญญาและบารมีดังนี้




ต้นฉบับ - चित्त्ऽआवरणनास्तित्वाद्ปริวรรต - cittāvaraṇa-nāstitvād.
แปล - 心無罣礙,無罣礙故,
ปริวรรต - ซิม บู ควง ไง. บู ควง ไง กู.
แปล - จิตใจจึงไร้ความกังวล เมื่อจิตใจไร้ความกังวลดังนี้






ต้นฉบับ - अत्रस्तो विपर्यास्ऽआतिक्रान्तो निष्ठानिर्वाणः प्राप्तःปริวรรต – อตฺรสฺโต วิปรฺยาสฺ ‘อาติกฺรานฺโต นิษฺฐานิรฺวาณะ ปฺราปฺตะ
แปล - 無有恐怖,遠離顛倒夢想,究竟涅槃。
ปริวรรต - บู เยา คง ปู. ยิน ลี ติน เตา มง เซียง. กิว เกง นิบ พัน.
แปล - จึงปราศจากความกลัว ห่างไกลภาพฝันอันเป็นมายา บรรลุความหลุดพ้นเป็นแน่แท้



ต้นฉบับ - त्रध्वव्यवस्थिताः सर्वबुद्धाः प्रज्ञापारमिताम्
ปริวรรต – ตฺรธฺวฺยวสฺถิตาะ สรฺวพุทฺธาะ ปฺรชฺญาปารมิตามฺแปล - 三世諸佛,依般若波羅蜜多故,
ปริวรรต - ชาม ซือ จู ฟู. อี ปอ เย ปอ ลอ มิก ตอ กู.
แปล - พระพุทธเจ้าทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เนื่องด้วยปัญญาและบารมีดังนี้





ต้นฉบับ - आश्रित्य अनुत्तरां सम्यक्सम्बोधिमभिसम्बुद्धाः.ปริวรรต – อาศฺริตฺย อนุตฺตรำ สมฺยกฺสมฺโพธิมภิสมฺพุทฺธาะ
แปล - 得阿耨多羅三藐三菩提
ปริวรรต - เตก ออ เนา ตอ. ลอ ซำ เมียว ซาม ผู่ ที.
แปล - จึงบรรลุถึงความรู้แจ้งอันสูงสุด


ต้นฉบับ - तस्माज्ज्ञातव्यं प्रज्ञापारमिता
ปริวรรต – ตสฺมาชฺชฺญาตวฺยํ ปฺรชฺญาปารมิตา
แปล - 故知般若波羅蜜多。
ปริวรรต - กู ซือ ปอ แย ปอ ลอ มิก ตอ.
แปล - ด้วยเหตุนี้ พึงเข้าใจว่าปัญญาและบารมีนั้น




ต้นฉบับ - महामन्त्रो महाविद्यामन्त्रोปริวรรต – มหามนฺตฺโร มหาวิทฺยามนฺตฺโร
แปล - 是大神咒,是大明咒
ปริวรรต - ซือ ไต เซง เจา. ซือ ไต เมง เจา.
แปล - คือคำภาวนาอันทรงศักดาอานุภาพ คือคำภาวนาอันแจ่มแจ้ง



ต้นฉบับ - ऽनुत्तरमन्त्रो समसममन्त्रः
ปริวรรต - ' นุตฺตรมนฺตฺโร สมสมมนฺตฺระ
แปล - 是無上咒,是無等等咒。
ปริวรรต - ซอ บู เซียง เจา แนน ชี อี ไช คู.
แปล - คือคำภาวนาที่สูงสุด คือคำภาวนาที่ไร้เทียมทาน



ต้นฉบับ - सर्वदुःखप्रशमनः सत्यममिथ्यत्वात्.ปริวรรต – สรฺวทุะขปฺรศมนะ สตฺยมมิถฺยตฺวาตฺ
แปล - 能除一切苦,真實不虛,
ปริวรรต - จิน สิด ปุก ฮี. กู ส่วย ปอ เย
แปล - สามารถเยียวยาความทุกข์ทรมานทั้งหลาย เป็นความจริงแน่แท้ไม่แปรผัน


ต้นฉบับ - प्रज्ञापारमितायामुक्तो मन्त्रः
ปริวรรต – ปฺรชฺญาปารมิตายามุกฺโต มนฺตฺระ
แปล - 故說般若波羅蜜多咒。
ปริวรรต - ปอ ลอ มิก ตอ (ทับศัพท์- ปฺรชฺญาปารมิตา) เจา. เจียก ส่วย เจา หวัก.
แปล - จึงพึงสาธยายคำภาวนาแห่งปัญญาและบารมีดังนี้



ต้นฉบับ - तद्यथा
ปริวรรต – ตทฺยถา
แปล - 即說咒曰
ปริวรรต - กิด ตี กิดตี.
แปล - เอ่ยคำภาวนาดังนี้ว่า



ต้นฉบับ - ओं गते गते पारगते पारसंगते बोधि स्वाहा.ปริวรรต - โอมฺ คเต คเต ปารคเต ปารสังคเต โพธิ สวาหา 
แปล - 唵 揭諦,揭諦,波羅揭諦,波羅僧揭諦, 菩提,薩婆訶。
ปริวรรต - งัน เจีย ตี้, เจีย ตี้, ปอ หลอ เจีย ตี้, ปอ หลอ เซิง เจีย ตี้, ผู ถี ซ่า หมอ เฮอ. (ทับศัพท์- สันสกฤตสำเนียงจีน)
แปล – โอม ไป ไป ข้ามไปให้พ้น ให้พ้นที่สุด ถึงความรู้แจ้ง เทอญ

ปรัชญาปารมิตาหฤทยสูตรสำนวนสันสกฤต

👼👼👼👼👼👼👼👼👼👼👼👼👼👼👼

กลอนปรัชญาปารมิตาหฤทยสูตร

(แปลจากภาษาจีนฉบับของพระตรีปิฏกธรรมาจารย์ ถังซำจั๋ง: ไม่ทราบผู้แต่ง)



พระอวโลกิเตศวร...........โพธิสัตว์ทรงปรัชญา
ปรัชญาปารมิตา.............กอปร์ปัญญาอันลึกซึ้ง
ทรงเล็งเห็นได้ว่า............ขันธ์ทั้งห้า ว่าง เปล่าจึง-
เหตุให้ล่วงก้าวซึ่ง...........พ้นจากทุกขะทั้งปวง

สารีบุตร

รูป นั้น ไม่ต่าง ว่าง.........ว่าง ไม่ต่างจาก รูป ลวง
รูป คือ ว่าง สรุปล่วง.......ว่าง คือ รูป มิผิดผัน
เวทนา และ สัญญา........อีก สังขาร วิญญาณ นั้น
ก็เป็นนัยเดียวกัน............คือความ ว่าง มิต่างเลย

สารีบุตร

ธรรมะสรรพธรรม............ล้วนมีธรรมเป็น ว่าง เหวย
มิ เกิด มิ ดับ เฉย...........มิ สะอาด มิ สกปรก
มิ เพิ่ม และ มิ ลด...........มิปรากฏปัจจัยยก-
สู่ ชรา แก่เงิ่นงก.............และอีกทั้ง มรณา

ใน ว่าง จึงไร้ รูป.............ไร้ เวทนา ไร้ สัญญา
ไร้ สังขาร วิญญาณ หนา...(สรุป ไร้ เบญจขันธ์)

ไร้ ตา และ ไร้ หู............ไร้ จมูก ไร้ ลิ้น ฉัน
ไร้ กาย ไร้ จิต อัน..........(สรุป ไร้ อายตนะใน)

ไร้ รูป และ ไร้ เสียง........ไร้ กลิ่น รส ก็ ไร้
ไร้ สัมผัส อารมณ์ ไซร้.....(สรุป ไร้ อายตนะนอก)
จึง ไร้ อวิชชา.................(ความ)ดับอวิชชา ก็ ไร้ ดอก
มิ เพิ่ม มิ ลด หรอก..........(ความ)ดับ แก่ ตาย ไร้ เช่นกัน


ไร้ ทุกข์ ไร้ นิโรธ............ไร้ สมุทัย ไร้ มรรค นั่น
ไร้ แจ้งประจักษ์ พลัน.......ไร้ บรรลุ จงคำนึง

แท้จริงล้วน ว่างไร้............ไม่มีอะไร ต้อง ลุ ถึง
โพธิสัตว์พระผู้ซึ่ง.............ทรงปรัชญาปารมิตา
มีจิต อิสสระ...................ปราศอุป-สรรค นานา
เป็นจิต อิสสระ................ปราศอุป-สรรค นานา (ย้ำ)
มิกลัว ธ จึงสา-................มารถก้าวพ้นมายามวล
ทรงลุพระนิพพาน.............พระพุทธผ่านสามโลกล้วน
ทรงลุอนุตตระ ควร...........ทรงสัมมาสัมโพธิ
ทรงปรัชญาปารมิตา..........จงรู้ว่า ปัญญา สิ
เป็นมนตรา มหาฤทธิ.........เป็นมนตรา แห่งความรู้
เป็นมนตรา หาไหนทัน.......มนตร์ไหนนั่นฤาควรคู่
ตัดทุกข์ทั้งปวง-สู่.............สัจจะแจ้ง ไร้เท็จเฉ

จงหมั่นสวดท่องมนตรา......ปรัชญาปารมิตา(อย่าลังเล)

(ว่า:)

คเต คเต ปารคเต.............ปารสังคเต โพธิ สวาหา ฯ
(ไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น...ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง ตรัสรู้ เบิกบาน)


ปรัชญาปารมิตาหฤทยสูตรสำนวนจีน



วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2563

นำโม ไต่ชือ ไต่ปุย (คาถาสรรเสริญกวนอิม)

白衣觀音大士靈感神咒

(ภาษาจีน ผสมภาษาสันสกฤต แบบธิเบต)



南無大慈大悲救苦救難廣大靈感觀世音菩薩摩訶薩。
นำโม ไต่ชือ ไต่ปุย กิวโคว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก๊ำ กวงสีอิมผู่สัก หม่อฮอสัก ( กราบ )
南無大慈大悲救苦救難廣大靈感觀世音菩薩摩訶薩。
นำโม ไต่ชือ ไต่ปุย กิวโคว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก๊ำ กวงสีอิมผู่สัก หม่อฮอสัก ( กราบ )
南無大慈大悲救苦救難廣大靈感觀世音菩薩摩訶薩。นำโม ไต่ชือ ไต่ปุย กิวโคว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก๊ำ กวงสีอิมผู่สัก หม่อฮอสัก ( กราบ )



南無นำโม - นโม大慈 ไต่ชือ แปลว่า มหากรุณา
大悲ไต่ปุย – ความสงสารที่ยิ่งใหญ่
救苦- กิวโคว - ช่วยให้พ้นทุกข์
救難 – กิวหลั่ง - ช่วยให้พ้นภัย
廣大靈感 – กวงไต๋เล่งก๊ำ - แรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่
觀世音菩薩摩訶薩。- กวงสีอิมผู่สัก หม่อฮอสัก - พระกวนอิม โพธิสัตว์ มหาสัตว์




แปล : ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีมหากรุณาเมตตาสงสารอันยิ่งใหญ่ ผู้ที่น่าเคารพ ผู้ช่วยให้พ้นภัย และสร้างแรงบันดาลใหญ่อันยิ่งใหญ่ พระกวนอิมโพธิสัตว์ มหาสัตว์



南無佛。南無法。南無僧。南無救苦救難觀世音菩薩。
นำโมฮุ๊ก นำโมฮวบ นำโมเจ็ง นำโมกิวโค่ว กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก




南無佛。นำโมฮุ๊ก – นโมพุทธาย
南無法。นำโมฮวบ – นโมธมฺมาย
南無僧。นำโมเจ็ง – นโมสงฺฆาย

南無 นำโม - นโม - ขอนอบน้อมต่อ救苦- กิวโคว - ที่ช่วยให้พ้นทุกข์
救難 – กิวหลั่ง - ช่วยให้พ้นภัย
觀世音菩薩。กวงสี่อิมผู่สัก - พระกวนอิมโพธิสัตว์
แปล : ขอนอบน้อมต่อพระพุทธเจ้า (นโมพุทธายะ) ขอนอบน้อมต่อพระธรรมคำสั่งสอน (นโมธัมมายะ) ขอนอบน้อมต่อพระสงฆ์สาวก (นโมสังฆายะ), ขอนอบน้อมต่อ ผู้ที่ช่วยให้พ้นทุกข์ ผู้ช่วยให้พ้นภัย พระกวนอิมโพธิสัตว์


怛垤哆。唵。伽囉伐哆。伽囉伐哆。伽訶伐哆。囉伽伐哆。囉伽伐哆。娑婆訶。


ถั่งจี้โต โอม เกียล้อฮวดโต เกียลอฮวดโต เกียลอฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ซาผ่อออ



怛垤哆。ถั่งจี้โต -ตทฺยถา (तद्यथा)
唵。โอม – โอม (ॐ)
伽囉伐哆。เกียล้อฮวดโต – ฆารวต (घारवत)
伽囉伐哆。เกียลอฮวดโต – ฆารวต (घारवत)
伽訶伐哆。เกียลอฮวดโต – คหวต (गहवत)
囉伽伐哆。ล้อเกียฮวดโต – รควต (रगवत)
囉伽伐哆。ล้อเกียฮวดโต – รควต (रगवत)
娑婆訶。ซาผ่อออ – สฺวาหา (स्वाहा)

สันสกฤตอักษรธิเบต ปริวรรตเป็นไทย: 

ตทฺยถา, โอมฺ ฆารวต ฆารวต คหวต รควต รควต สฺวาหา





天羅神。地羅神。人離難。難離身。
เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่ หลั่ง หลั่งลี้ซิ้ง




天羅神。เทียงล้อซิ้ง -เทพบนสวรรค์
地羅神。ตี่ล้อซิ้ง – เทพบนโลกพื้นดิน
人離難。นั้ง ลี่ หลั่ง – คนห่างทุกข์
難離身。หลั่งลี้ ซิ้ง – ทุกข์ห่างไป
แปล : ผู้เป็นดั่งเทพบนสวรรค์ และเทพบนพื้นโลก (ช่วยให้) คนห่างทุกข์ ทุกข์ห่างไป



一切 災殃 化為塵。南無 摩訶 般若 波羅蜜。

เจ็กเฉียก ไจเอียง ฮวยอุ่ยติ้ง นำโม ม่อออ ปวกเยี่ยะ ปอล่อบิ๊ก ( กราบ )



一切เจ๊กเฉียก - ทั้งหมด
災殃ไจเอียง - ภัยพิบัติ
化為塵。ฮวยอุ่ยติ้ง - กลายเป็นฝุ่น
南無นำโม - นโม
摩訶ม่อออ - มหา
般若ปวกเยี่ยะ – ปรัชญา
波羅蜜ปอล่อบิ๊ก – ปารมิตา
แปล : ภัยพิบัติทั้งหมดกลายเป็นฝุ่นผง , ขอนอบน้อมต่อ ผู้ทรงมหาปัญญาบารมีที่ยิ่งใหญ่ (มหาปรัชญาปารมิตา)






วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

หรือเงินสามาถซื้อได้ทุกอย่าง? (แบบฝึกอ่าน ภาษาลาว)

ເງິນສາມາດຊື້ທຸກຢ່າງໄດ້ เงินสามารถซื้อทุกอย่างได้


     🙈 ນັກຮົບເບິ່ງຊີວິດຂອງຄົນຄືກັບຜັກແລະປາ. ເພາະວ່ານັກຮົບຮູ້ພຽງແຕ່ການສູ້ຮົບເທົ່ານັ້ນ ເຫັນວ່າການຂ້າຄົນເປັນເລື່ອງປົກກະຕິ ເພາະວ່າເມື່ອສູ້ຮົບຊະນະ ຄົນອ່ອນແອຕ້ອງຕາຍໃນສົງຄາມ, ບໍ່ມີໃຜຜິດ.
     🙉 ນັກຮົບບໍ່ເຂົ້າໃຈພື້ນຖານຂອງສັງຄົມທີ່ສະຫງົບສຸກ. ນັກຮົບມັກຈະຄິດວ່າຜົນປະໂຫຍດຫຼາຍທີ່ສຸດແມ່ນກ່ອນ. ໂດຍບໍ່ຄິດເຖິງ, ສິ່ງທີ່ຖືກແລະຜິດ, ດີແລະບໍ່ດີ, ສະນັ້ນຈຶ່ງຂາຍຊີວິດຂອງຄົນເພື່ອຫາລາຍໄດ້.
     🙊 ທຸກມື້ນີ້ນັກຮົບໄດ້ກໍ່ໃຫ້ເກີດສົງຄາມໃນສັງຄົມໄທຫລືບໍ່.

...........


............
💀 ຄວາມບໍ່ຍຸດຕິທຳເປັນເລື່ອງປົກກະຕິທີ່ນັກຮົບທີ່ດີຈະຕ້ອງອົດທົນໃນເວລາສົງຄາມ. ແຕ່ຖ້າທ່ານຍອມໃຫ້ເດັກນ້ອຍປະສົບຄວາມບໍ່ຍຸດຕິທຳດ້ວຍຄວາມອົດທົນ ສະແດງໃຫ້ເຫັນວ່າທ່ານຈະເຮັດໃຫ້ເຮືອນຂອງພວກເຂົາເປັນດິນແດນແຫ່ງສົງຄາມໃນອະນາຄົດບໍ?


👽ເລື່ອງ "ຄດີທາຍາດກະທິງແດງ; ທ້າວວໍຮຍຸດ (ບອສ) ຢູ່ວິທະຍາ" ໄດ້ສິ້ນສຸດລົງແລະບໍ່ສາມາດປ່ຽນແປງໄດ້. ສະນັ້ນພວກເດັກນ້ອຍໄທຈື່ງຕ້ອງກາຮທີ່ຈະປ່ຽນແປງສິ່ງທີ່ສາມາດປ່ຽນແປງໄດ້ (ເຊັ່ນ: ລັດຖະບານ) ຄືເລື່ອງປົກກະຕິ

👮ຂ້ອຍເຫັນເດັກນ້ອຍຄືລູກຫລານ ຄືອະນາຄົດຂອງຊາດ, ບໍ່ແມ່ນສັດຕູ. ເດັກນ້ອຍຄົນໃດ? ຈະຕ້ອງການຢູ່ກັບຜູ້ໃຫຍ່ທີ່ບໍ່ຍຸຕິທຳ ທຳຮ້າຍຈິດໃຈຂອງພວກເຂົາຕະຫຼອດໄປ ຫລືຜູ້ໃຫຍ່ຈະຂ້າເດັກນ້ອຍດັ່ງນັ້ນເພືອ .... ?


วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

The rape cultures in Myths and Fairy tales


refer to: https://www.postcrescent.com/story/news/local/2016/04/06/

😇 All ideal about the children of gods, demi/demigods , incubus, succubus, Nephilim etc. they accepted to follow the rape cultures in ancient worlds.

   😈 Demi gods + Woman = Nephilim , Giants /Demon (Asura)

Refer to : https://youtu.be/4Kpkp2vxX3I

    😈 Incubus  devil , the father of demons, wizards & witchs; who curses to make all pregnant girls in sexual dream.

Refer to: https://youtu.be/zhPycwJc9IY

    😇 Persephone (Goddess of spring) Athena (Goddess of wisdom & victory) Daphne (Nymph) Medusa (Demoness) Europa (Human princess) etc. their love stories in Greek myth is the art of rape cultures.

       😈 Hedes and Persephone

Refer to: https://youtu.be/QKfmTQi2Yq0

   😈  Hephaestus and Athena

Refer to:  https://youtu.be/dgS_7PDxSj0

    😈 Apollo and Daphne

Refer to: https://youtu.be/bdnPdZMZ9PU

Poseidon and Meduza

Refer to: https://youtu.be/eFGJaVR16lg

Zeus and Europa

Refer to: https://youtu.be/BFyT2dH6QIY

  😇 Allerleirauh (Child sexual abuse / Father-Daughter emotional incest) Sleeping Beauty (Somnophilia) , Snow white (MSBP , Child physical & sexual abuse) Little red riding hood (Child sexual abuse & Pedophilia) etc. their fairy tales are the secreted sexual abuse & followed rape cultues. (Original versions)

   😈 Allerleirauh

Refer to:  https://youtu.be/k02CbQii9f8


    😈 Original fairy tales

Refer to: https://youtu.be/2mTpu-BfAGk

   😷  There are promotinal rape cultures in Thai lieratures such as the Khun Chang Khun Phaen. (Entering Nang Kaew Kiriya's room & the taking Nang Wanthong to forest chapter) and Thai Ramakien (Indian Ramayana, the story of Mohini and Siva, Ravana and Vedavadi ,Mahabharatata ,Kamasutra etc.) as well as current Thai TV dramas, etc. Their media reflects this  problems still have in Thai society and the world.

   😈 Rape culture in Media

Refer to : https://youtu.be/pubCMhaJgPE

Refer to: https://eca.unwomen.org/en/news/in-focus/end-violence-against-women

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563

ศัพท์ควรรู้เกี่ยวกับโควิด 19 (ปี 63)


1) โควิด 19 คือ Coronavirus disease 2019 (โคโรนาไวรัส ดิซีซ ทูทาวซันนายทีน) หริอ COVID-19 ( โควิด 19) มีชื่อเรียกอื่นคือ โคโรนาไวรัส (ชื่อกลุ่มไวรัสที่มีปุ่มหนามคล้ายมงกุฎ เช่น ไวรัสซาร์ส SARS ไวรัสเมอร์ส MERS ไวรัสโควิด 19 ซึ่งเป็นชื่อกลุ่มย่อย ๆ) , ไวรัสอู่ฮั่น (เรียกตามชื่อเมืองในประเทศจีนซึ่งมีผู้พบผู้ติดเชื้อครั้งแรก) , ไวรัสจีน เรียกตามประธานาธบดีสหรัฐอเมริกา "โดนัลด์ ทรัมป์ (donald trump)" ซึ่งต่อมาชื่อนี้ได้รับการต่อต้านว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ 
    โดยมากเชื้อไวรัสชนิดนี้มีสายพันธุกรรมคู่เดียวคือ RNA ที่เข้าไปเกาะกับสายพันธุกรรมคู่ในสิ่งมีชีวิตที่เป็น DNA แล้วขยายพันธุ์ตัวของมันเองในสิ่งมีชีวิต

2) ซากเชื้อ (วาทกรรมใหม่) น่าจะมาจากคำว่า killed virus (คิลเล็ด ไวรัส หมายถึงไวรัสที่ถูกฆ่า) หรือ inactivated virus (อินเอคทิเวเอ็ด ไวรัส หมายถึงไวรัสที่ไม่ทำงาน) ถ้านำมาใช้ว่า "ไวรัสที่ตรวจพบในผู้ป่วยที่เคยคิดว่าหายป่วยแล้ว เชื่อว่าเป็นจำนวนไวรัสที่น้อย หรือตายแล้วไม่ก่อให้เกิดการติดโรคอีก?" 


3) Vaccine (วัคซีน) ผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่อาจจะสร้างขึ้นจาก เชื้อโรค แบคทีเรีย หรือไวรัสที่ถูกฆ่า หรือทำให้มีฤทธิ์อ่อนแรง ไม่เป็นพิษกับร่างกาย หรือลดจำนวนเชื้อโรคนั้น ๆ ลงจนไม่ก่อโรค แล้วสามารถใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายได้อย่างปลอดภัย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ

- The live attenuated virus vaccine (เดอะ ไลฟ์ เอตเทนนูเอ็ด ไวรัส วัคซีน) คือวัคซีนที่ถูกสร้างมาจากเชื้อไวรัสที่มีชีวิตแต่ถูกลดปริมาณลงไม่ทำให้ก่อโรค ต้องคำนวนให้ดีเพราะอาจจะกลับทำให้เกิดโรคได้

- The inactivated virus vaccine (เดอะ อินเอคทิเวเอ็ด ไวรัส วัคซีน) คือวัคซีนที่สร้างจากเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว และไม่ถูกทำให้เป็นพิษกับร่างกาย แต่ร่างกายก็อาจจะไม่สร้างภูมิคุ้มกันได้ดีเท่าแบบใช้เชื้อที่มีชีวิต แต่โดยมากไม่เสี่ยงทำให้เกิดโรคจากเชื้อที่ฉีด

4) Social Distancing (โซเชียว ดิสแคนซิ่ง ) คือการเว้นระยะห่างระหว่าวบุคคล มาจาก Social เกี่ยวกับสังคม และ Distancing การปลีกตัว

5) Plusma (พลาสมา) สถานะหนึ่งของสสาร หรือของเหลวภายในเซลล์ นม หรือเลือด โดยพลาสมาที่พบภูมิต้านทานไวรัสมักมาจากเลือดของผู้เคยติดไวรัสนั้น ๆ

6) นักรบเสื้อกาวน์ คำว่าเสื้อกาวน์ในภาษาอังกฤษคือ hospital gown (ฮอสปิทอล กาวน์) คือเสื้อยาวคลุมถึงเข่าของผู้ป่วย แต่ก็มีเสื้อแบบเดียวกันที่แพทย์หรือหมอใช้ในห้องผ่าตัดหรือฉุกเฉินที่เรียกว่า doctor gown (ด็อกเตอร์ กาวน์) หรือ Hospital Doctor Surgical Gown (ฮอสปิทอล ด็อกเตอร์ เซอจิเกิล กาวน์) 

7) นักรบชุดขาว คำว่าชุดขาว เป็นคำแปลมาจากคำว่า white coat (ไวท์โคท) หมายถึงชุดสูทยาวสีขาวที่หมอใส่เวลาตรวจโรค เพราะช่วงปลายคริสตวรรษที่ 19 สีขาวเป็นตัวแทนความสะอาดและถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์และสาธารณสุขที่กำลังเฟื่องฟู ทำให้ชุดครุยสีขาวจึงถูกเลือกใช้สำหรับที่นักศึกษาแพทย์เมื่อสำเร็จการศึกษาในสถาบันการแพทย์ต่าง ๆ ดังนั้นนักรบเสื้อกาวน์และนักรบชุดขาวจึงหมายถึง หมอ หรือบุคลากรทางการแพทย์ต่าง ๆ

8) Lock down (ล็อคดาวน์) ปิดประเทศ หรือ ปิดเมือง

9) Curfew (เคอร์ฟิว) เป็นคำสั่งกำหนดเวลาใช้ข้อบังคับบางอย่าง โดยปรกติเป็นการกำหนดเวลาให้บุคคลต้องอยู่ภายในเคหสถาน หรือให้ปิดทำการสำนักงานบางประเภท และผู้ออกคำสั่งดังกล่าวมักเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยผู้ฝ่าฝืนจะได้รับโทษทางกฎหมายต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น

10) Herd Immunity (เฮิร์ด อิมมูนิตี้) หรือการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (มาจากคำว่า Herd ฝูงสัตว์ หมู่ +Immunity ภูมิคุ้มกัน) คือทฤษฎีที่เชื่อว่าถ้ามีผู้ติดเชื้อโรคเป็นจำนวนมากแล้ว ร่างกายคนส่วนใหญ่จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นได้เองทำให้ผู้คนที่เหลือรอดไม่ติดเชื้อ ซึ่งทฤษฎีนี้มีจุดอ่อนตรงที่ก่อนที่ร่างกายมนุษย์จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นได้เองอาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

11) Video Conference (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) คือการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบการประชุมทางไกลหรือออนไลน์ผ่านจอภาพ

12) E-learning (อีเลินนิ่ง) คือการเรียนในลักษณะที่ใช้การถ่ายทอดเนื้อหาด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บเล็ต ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ออนไลน์ต่าง ๆ ทางสัญญาณโทรทัศน์ หรือ สัญญาณดาวเทียม (Satellite) ฯ ร่วมถึงโปรแกรมออฟไลน์ในแผ่นซีดี

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563

โยคาสนะ ต่าง ๆ และปราณายาม

वीरासन วีราสน อ่าน วี-รา-สะ-นะ (วีร [ปุลลิงค์ แปลว่า ผู้กล้า ผู้ชาย ลูกชาย หัวหน้า สามี ฯ นปุงสกลิงค์ แปลว่า รากของขิง พริกไทย ต้นกก ฯ สตรีลิงค์ใช้อาการันต์ที่สุดธาตุ เป็น วีรา แปลว่า  ส่วนหนึ่งของศรุติ ; ศรุติ {สตรีลิงค์} สิ่งที่ได้ยินแล้ว , พระเวท, คุณนาม แปลว่า ที่กล้าหาญ ที่เกี่ยวกับผู้กล้า ฯ และคำว่า วิรา {สตรีลิงค์ } แปลว่า ภริยา ] ที่นี้แปลว่าผู้กล้า + อาสน [นปุงสกลิงค์] ที่ ที่นั่ง ที่อาศัย มั่นคง ฯลฯ และท่าทำโยคะ) แปลว่า ท่าผู้กล้า (เหมือนท่านั่งแบบเทพธิดาของไทย หรือท่านั่งเตรียมรอฝึกอาคิโอ หรือยูโด ของญี่ปุ่น)


सुप्त वीरासन สุปฺต วีราสน อ่าน สุป-ตะ-วี-รา-สะ-นะ (สุปฺต [ ปุลลิงค์ แปลว่า นกเดาลม เป็นนกขนาดเล็กชนิดหนึ่งมีหางยาว wagtail, นปุงสกลิงค์ แปลว่า การนอน การหลับลึก การนอนกรน ,คุณนาม แปลว่า ที่พักผ่อน ที่นอนหลับ ที่ล้มตัวลงนอน เอนตัว ฯลฯ ] วีร [ปุลลิงค์ แปลว่า ผู้กล้า ผู้ชาย ลูกชาย หัวหน้า สามี ฯ นปุงสกลิงค์ แปลว่า รากของขิง พริกไทย ต้นกก ฯ สตรีลิงค์ใช้อาการันต์ที่สุดธาตุ เป็น วีรา แปลว่า  ส่วนหนึ่งของศรุติ ; ศรุติ {สตรีลิงค์} สิ่งที่ได้ยินแล้ว , พระเวท, คุณนาม แปลว่า ที่กล้าหาญ ที่เกี่ยวกับผู้กล้า ] ในที่นี้แปลว่า ผู้กล้า + อาสน [นปุงสกลิงค์] ที่ ที่นั่ง ที่อาศัย มั่นคง ฯลฯ และท่าทำโยคะ) แปลว่า ท่าผู้กล้าที่เอนตัวนอน



ตฺริวิกฺรมาสน (ตฺริ [ สังขยา] สาม + วิกฺรม [ปุลลิงค์] การเดินทาง การไป ก้าวเดิน เท้า พลัง ฯลฯ = ตฺริวิกฺรม [ปุลลิงค์] คือ การเหยียบสามโลกเพียงสามก้าวของพระนารายณ์ ปางวามนาวตาร ที่อวตารเป็นพราหมณ์เตี้ยปราบเจ้ากรุงพาล + อาสน [ นปุงสกลิงค์] ที่ สถานที่ ที่นั่ง ที่อาศัย มั่นคง ฯลฯ และท่าทำโยคะ = ตฺริวิกฺรมาสน [นปุงสกลิงค์] ) แปลว่า "ท่าเหยียบสามโลก" (แบบวามนาวตารของพระนารายณ์) ปล. ท่านี้ถูกใช้ในศิลปะประติมากรรม จิตรกรรม และนาฏกรรมการแสดงนาฏศิลป์ของอินเดียแสดงเรื่อง วามนาวตารของพระนารายณ์ด้วย


.........

รูปที่ 1 วามนาวตาร หรือวามเทพ เหยียบสามโลก,ศิลปะประคิมากรรมหินแกะนูนสูงของอินเดีย
.........


अनंतासन อนํตาสน อ่าน อะ-นัน-ตา-สะ-นะ (อนํต [ เป็นได้ทั้งสามลิงค์ คือ ปุลลิงค์จะแปลว่า เส้นไหม เลขหนึ่ง อักษร อะ แป้งทาตัว ฯลฯ ถ้าเป็น นปุงสกลิงค์จะแปลว่า ท้องฟ้า ชั้นอากาศ  ถ้าเป็นสตรีลิงค์ใช้อาการันต์ที่สุดคำเป็น อนนฺตา แปลว่า แผ่นดิน โลก พิภพ และถ้าใช้เป็นคุณนาม แปลว่า ไม่มีสิ้นสุด ไม่มีจุดจบ ตรงกับคำว่า อนันต์ ของไทย] ในที่นี้ใช้ในความหมายคุณนาม + นาค [ปุลลิงค์] ช้าง พญางู พญานาค = อนํตนาค / อนนฺนาค [ปุลลิงค์] เศษนาคพี่ชายของวาสุกีนาคราช [วาสุกีเป็นราชาปกครองนาคโลกดินแดนหนึ่งในอีกหลายแห่งในบาดาลโลก] บัลลังก์ [เตียง] ของพระนารายณ์ที่เป็นพญานาคที่ค้ำจักรวาลทั้งสามโลกไว้อยู่ใต้มหาสมุทร และเป็นสังวาล ของพระศิวะ [ร่างกายพระศิวะคือจักรวาล ; พรหม นารายณ์ ศิวะ เป็นตรีมูรติ คือเป็นองค์เดียวกันปรากฏเป็น สามคุณะ [รชะ ตมะ สัตตวะ] ด้วยลีลาของปรเมศวร เทพสูงสุด หรือที่หนังแขกแปลว่า ปฐมพรหม ตามปรัชญาฮินดูขั้นสูง] โดยคำว่า อนนฺตนาค ได้ตัดคำว่า นาค / นาคราชออก เป็น อนนฺต/อนํต + อาสน [นปุงสกลิงค์] ที่ สถานที่ ที่นั่ง ที่อาศัย มั่นคง ฯลฯ และท่าทำโยคะ = อนํตาสน [นปุงสกลิงค์] ) แปลว่า "ท่า (นอนบน) พญาอนันตนาคราช" ตรงกับตำนานนารายณ์บรรทมสินธุ์ของไทย

(ปล. ท่านี้ไม่มีการนำมาใช้ในนาฏกรรมการแสดงอินเดียแทนท่านารายณ์บรรทมสินธุ์ เพราะอาจจะมองดูไม่สวย ใช้เป็นท่าในโยคะเท่านั้น)



.......


รูปที่ 2 ท่านารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ใช้ในนาฏกรรมการแสดงของอินเดีย
.......

วฤกฺษาสน वृक्षासन (วฤกฺษ [ปุลลิงค์] ต้นไม้ + อาสน [นปุงสกลิงก์] ที่ สถานที่ ที่อาศัย ที่นั่ง มั่นคง ฯลฯ และท่าทำโยคะ) แปลว่า "ท่าต้นไม้" 
(เหมือนท่ายืนขาเดียวเดี่ยวกินลมของนางสวาหะในรามเกียรติ์ไทย และแมวทุศีลหลอกกินลูกนกในเรื่องหิโตปเทศ เรื่องย่อย "แร้งแก่กับแมว")




अधोमुखवृक्षासन (อโธ [อุปสรรค prefix ] ลง ,ลงต่ำ +  มุข [ปุลลิงค์] ใบหน้า, หน้า, ปาก = อโธมุข [คุณนาม หรือนามนามปุลลิงค์] ใบหน้าลงต่ำ + วฤกฺษ [ปุลลิงค์] ต้นไม้ + อาสน [นปุงสกลิงค์] ที่ สถานที่ ที่นั่ง ที่อาศัย มั่นคง ฯลฯ และท่าปฏิบัติโยคะ) = อโธมุขวฤกฺษาสน [เป็นนปุงสกลิงค์ผันตามคำหลังสุดคือ อาสน]  แปลว่า ท่าต้นไม้ (ที่เอา) หน้าลง (ท่าหกสูง /ท่ายืนด้วยมือ hand stand)


ศีรฺษาสน (ศีรฺษ [นปุงสกลิงค์] หัว+ อาสน [ นปุงสกลิงค์] ที่ สถานที่ ที่นั่ง ที่อาศัย มั่นคง ฯลฯ และท่าปฏิบัติโยคะ ; กฏสระสนธิ อะ/อา+อะ/อา= อา) แปลว่า "ท่าหัว" (ท่ายืนด้วยหัว Head stand หรือท่าใช้หัวเป็นอาสนะ)





जानु शीर्षासन ชานุ ศีรฺษาสน (ชานุ [ผันได้ทั้งแบบปุลลิงค์และนปุงสกลิงค์] เข่า , ศีรฺษ [นปุงสกลิงค์] หัว + อาสน [นปุงสกลิงค์] ที่ สถานที่ ที่นั่ง ที่อยู่ มั่นคง ฯลฯ และท่าปฏิบัคิโยคะ ; ตามกฏสระสนธิ อะ/อา + อะ/อา = อา) แปลว่า "ท่าเข่า (จรด) หัว"


ปศฺจิโมตฺตานาสน อ่าน ปัศ-จิ-โมต-ตา-นา-ส-นะ, เสียง /ศ/ /ษ/ /ส/ ในภาษาอินเดียแตกต่างกัน ( ปศฺจิม [คุณนาม]  ตะวันตก ที่อยู่ทิศตะวันตก ด้านหลัง ที่อยู่ด้านหลัง สิ้นสุด สุดท้าย ฯ + อุตฺตาน [คุณนาม] ยืด ขยายออก นอนอย่างดี นอนหงาย เปิด ฯลฯ ตามกฏสระสนธิ อะ + อุ = โอ ดังนั้น ปศฺจิม [ปัศ-จิ-มะ] + อุตฺตาน = ปศฺจิโมตฺตาน [ปัศ-จิ-โมต-ตา-นะ] + อาสน [นปุงสกลิงค์] ที่ สถานที่ ที่อาศัย ที่นั่ง มั่นคง ฯลฯ และท่าปฏิบัติโยคะ = ปศฺจิโมตฺตานาสน ตามกฎสระสนธิ อะ/อา + อะ/อา= อา) แปลว่า "ท่ายืดส่วนหลัง"



ตฺริโกณาสน อ่าน ตฺริ-โก-ณา-สะ-นะ ในภาษาอินเดียมีเสียง วรรคฏ เช่นเสียง /ณ/ เป็นเสียงยกลิ้น (ตฺรีโกณ [ตฺริ-โก-ณะ , ปุลลิงค์] สามเหลี่ยม ที่เป็นรูปสามเหลี่ยม ผลแห้ว ฯ + อาสน [ นปุงสกลิงค์] ที่ ที่นั่ง สถานที่ ที่อยู่ มั่นคง ฯ และท่าทางปฏิบัติโยคะ ; กฏสระสนธิ อะ/อา + อะ/อา = อา) แปลว่า "ท่าสามเหลี่ยม" 



ภุชํคาสน (อ่าน ภุ-ชง-คา-สะ-นะ เพราะนิคหิตต้องเปลี่ยนเป็นเสียงนาสิก [ตัวสุดท้ายวรรค] ตามพยัญชนะวรรค ในที่นี้มี /ค/ ตามหลัง ค เป็นพยัญชนะวรรค ก (ก ข ค ฆ ง) มี /ง/ เป็นเสียงนาสิก อนึ่ง ภุชงฺค [ปุลลิงค์] งูขนาดใหญ่  งู ที่รัก เพื่อนเสเพลของเจ้าชาย ฯ + อาสน [นปุงสกลิงค์] ที่ ที่นั่ง สถานที่ มั่นคง ฯลฯ และท่าทางปฏบัติโยคะ) แปลว่า ท่างู



เนากาสนะ (เนากา [สตรีลิงค์]  เรือ + อาสนะ [นปุงสกลิงค์] มั่งคง สถานที่ ที่อาศัย ที่นั่ง ฯลฯ และท่าทางที่ใช้ปฏิบัติโยคะ : ตามกฏสระสนธิ อะ/อา+อะ/อา = อา) แปลว่า ท่า (ทำโยคะเหมือน) เรือ



वीरभद्रासन วีรภทฺราสน (วีรภทฺร [ปุลลิงค์] ผู้ดีงาม/งดงามด้วยความกล้า อวตารของพระศิวะที่ไปตัดหัวท้าวทักษะพ่อตา (ชื่อเฉพาะชื่อคน) + อาสน [ นปุงสกลิงค์] ที่ ที่นั่ง สถานที่ มั่นคง ฯลฯ และท่าทำโยคะ) แปล "ท่าทำโยคะ (แบบ) พระวีรภัทระ" (เป็นชุดท่า)


सूर्य नमस्कार  สูรฺย นมสฺการ (สูรฺย [ปุลลิงค์] พระอาทิตย์ + นนสฺการ [ปุลลิงค์] การไหว์) แปลว่า "การไหว้พระอาทิตย์" (เป็นชุดท่า และมีมนต์สวดเวลาทำแต่ละท่า)



................

ท่าโยคาสนะ แบบอื่น ๆ




.......



........

สูรฺยนมสฺการ มนฺตฺร (มนต์ที่ใช้สวดตอนทำสูรยนมัสการท่าต่าง ๆ)



การฝึกลมหายใจ ปราณายาม

1. नाडी शोधन प्राणायाम นาฑี โศธน ปราณายาม (นาฑี [สตรีลิงค์] ชีพจร เส้นเลือดแดง/ดำ เส้นประสาท + โศธน [นปุงสกลิงค์] การตรวจสอบ การถอดถอน การเคลื่อนที่ ; ปราณายาม [ปุลลิงค์] หายใจ / กำหนดลมหายใจ )  คือ การกำหนดลมหายใจที่ปลายจมูกตรวจสอบลมหายใจเข้าออก เพื่อบำรุงเส้นชีพจรในร่างกาย


2. कपालभाति प्राणायाम กปาลภาติ ปราณายาม (กปาล [เป็นได้ทั้งปุลลิงค์และนปุงสกลิงค์] หัว กะโหลก + ภาติ [สตรีลิงค์ แปลว่า หลักฐาน, ความรู้, แสง แต่ถ้าเป็นกริยา แปลว่า เห็น แสดง ปรากฏ] = กปาลภาติ [สตรีลิงค์] แปลว่าลำดับของส่วนประกอบแห่งความร้อน หรือตบะ) ซึ่งหมายถึงการกำหนดจิตไปพร้อมกับการหายใจภายใน เพื่อให้เกิดการมองเห็นในหัว (นิมิตร การกำหนดจิต หรือที่ไทยพุทธเรียกว่า ธรรมกาย ? แต่ฮินดูจะเพ่งไปที่เทพต่าง ๆ ที่แต่ละคนนับถือ)


.........

หมายเหตุ : ศัพท์ทางไวยากรณ์ บาลี และสันสกฤต

บาลี            |    สันสกฤต    |    ไทย

ปุงลิงค์       |     ปุลลิงค์       |   เพศชาย

อิตถีลิงค์     |     สตรีลิงค์     |    เพศหญิง

นปุงสกลิงค์ |   นปุงสกลิงค์  |    ไม่กำหนดเพศ

สังขยา         |  สังขยา          |    จำนวนนับ

นามนาม       | นามนาม         |    คำนาม

คุณนาม        |  คุณนาม         |   คำวิเศษ

อุปสัคคะ       | อุปสรรค          | คำเติมหน้า (prefix)

วิภัตติ           | วิภักติ              | คำเติมท้าย (suffix)

ปัจจัย           | ปรัตยยะ           | คำเติมท้ายธาตุ root ให้เป็นต้นคำ stem แต่ต้องลงวิภักติจึงใช้ได้

อาคม           | อาคม               | คำเติมกลางแทรกลงในคำ (infix)

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ไตรสรณคมน์ สันสกฤต-บาลี


สันสกฤต

नमः (भगवते) शाक्यमुनये तथागतायार्हते सम्यक्संबुद्धाय। (เทวนาครี)
நம (பகவதே) சாக்யமுனயே த்தாகதாயார்ஹதே ஸம்யக்ஸம்புத்தாய / (ทมิฬ)
នមះ (ភគវតេ) សាក្យមុនយេ តថាគតាយាហ៌តេ សម្យក្សំពុទ្ធាយ / (เขมรปัจจุบัน)
นมะ (ภควเต) ศากฺยมุนเย ตถาคตายารฺหเต สมฺยดกฺสํพุทฺธาย /

บาลี

नमो तस्स भगवतो अरहतो सम्मा सम्बुद्धस्स ।
நமோ தஸ்ஸ பகவதோ அரஹதோ ஸம்மா ஸம்புத்தஸ்ஸ /
នមោ តស្ស ភគវតោ អរហតោ សម្មា សម្ពុទ្ធស្ស
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุทฺธสฺส /

สันสกฤต

बुद्धं शरणं गच्छामि। धर्मं शरणं गच्छामि। संघं शरणं गच्छामि।
புத்தம் சரணம் கச்சாமி / தர்மம் சரணம் கச்சாமி / சங்கம் சரணம் கச்சாமி/
ពុទ្ធំ សរណំ គច្ឆាមិ / ធម៌ំ សរណំ គច្ឆាមិ/ សំឃំ សរណំ គច្ឆាមិ/
พุทฺธํ ศรณํ คจฺฉามิ / ธรฺมํ ศรณํ คจฺฉามิ / สํฆํ ศรณํ คจฺฉามิ /

บาลี

बुद्धं सरणं गच्छामि । धम्मं सरणं गच्छामि । संघं सरणं गच्छामि ।
புத்தங் சரணங் கச்சாமி / தம்மங் சரணங் கச்சாமி / சங்கங் சரணங் கச்சாமி/
ពុទ្ធំ សរណំ គច្ឆាមិ / ធម្មំ សរណំ គច្ឆាមិ/ សំឃំ សរណំ គច្ឆាមិ/
พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ / ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ / สํฆํ สรณํ คจฺฉามิ /

Refer to : http://www.dsbcproject.org/canon-text/content/412/1878

สำเนียงแขกเหนือ


⛿🏤⛿🏡⛿🏤⛿🏡⛿

สำเนียงเขมร


⛿🏤⛿🏡⛿🏤⛿🏡⛿

สำเนียงแขกอินเดียใต้ (ทมิฬ)


⛿🏤⛿🏡⛿🏤⛿🏡⛿


หมายเหตุ 

1) อักษรเขมรปัจจุบันใช้ ស แทน /ส/, /ศ/, /ษ/

2) ศากฺยมุนิ (ศากยมุนี -ไทย) ทมิฬสะกดเป็น சாக்கியமுனி (รูปเขียน : จากฺกิยมุนิ เสียงอ่าน: ซากฺกิยมุนี)/ சாக்யமுனி (รูปเขียน: จากฺยมุนิ เสียงอ่าน: ซากฺยมุนี) เพราะแทรก இ อิ ทำให้ซ้อนตัวสะกดดซ้ำเป็น க்கி เข้ามาช่วยในการออกเสียงก็ได้ ความหมายไม่เปลี่ยน

3) มีชาวทมิฬบางกลุ่มที่ไม่ใช้พุทธแท้ แต่ตามกระแสวัฒนธรรมพุทธในอินเดียใต้ เอาคำว่า "โสมบุตร" ซึ่งหมายถึง เทวดานวเคราะห์ประจำวันพุธ เข้ามาเป็นบทสวดบูชาพระพุทธเจ้าในรัฐทมิฬนาฑูเนื่องจากการเทียบผิด และเป็นของใหม่ ไม่ใช่บทสวดของชาวพุทธในอินเดียใต้อย่างแท้จริง อาจจะมีที่มาจากลิทธิบูชาศักติในท้องถิ่นที่พยายามรวมทุกศาสนา ไม่ว่าจะเป็นคริสต์ ไชนะ พุทธ ฮินดู ฯ ไว้ด้วยกัน แต่ไม่มีความรู้ในพุทธศาสนาลึกซึ้งพอจึงลากเข้าความ