Nay EDITH! spare the
rose!—it lives—it lives,
|
ไม่แต่ง! แฝงกุหลาบ! มีชีพชีวีศรี
|
It feels the noon-tide
sun, and drinks refresh'd
|
แสงสุรีย์ สบเที่ยงเคียง เครื่องดื่มได้สดใส
|
The dews of night; let
not thy gentle hand
|
น้ำค้างร้างราตรี; จับมือละมุน อย่ามีไจ
|
Tear sunder its
life-fibres and destroy
|
น้ำตาสลายเส้นใยแห่งชีวิตแล้วมลาย
|
The sense of
being!—why that infidel smile?
|
สัมผัสพร้อมเพื่อมีชีวิต! รอยยิ้มนั้นไม่จริงใจฤาไฉน?
|
Come, I will bribe
thee to be merciful,
|
มาข้ามอบ ส่วยเจ้าใจ เมตตาจำหน่าย
|
And thou shall have a
tale of other times,
|
แจ้งเรื่องราว เรากาลอื่น เจ้ากระจาย
|
For I am skill'd in
legendary lore,
|
เพราะข้าพร้อม เพียรทักษะ นิทาน นา ๆ
|
So thou wilt let it
live. There was a time
|
ควรเจ้าจะคลาย ชีวายเพ็ญ เพลาชื่น
|
Ere this, the freshest
sweetest flower that blooms,
|
ก่อนดอกรื่น รสหวาน บานสะพรั่งผา
|
Bedeck'd the bowers of
earth. Thou hast not heard
|
ควรประดับ แดนโลกแล้ว ลืมฟังฤา
|
How first by miracle
its fragrant leaves
|
แรกเราอัศจรรย์ อันหอมหวน แห่งพฤกษ์ใบ
|
Spread to the sun
their blushing loveliness.
|
แผ่รักร้อน ล้วนผองสู สู่สูรย์แสง
|
There dwelt at
Bethlehem a Jewish maid
|
เมื่อเบธเลเฮม ยิวสาวใช้ เมืองแสดง
|
And Zillah was her
name, so passing fair
|
ชื่อซิลลาห์ ล่ะสิเธอ เผลอหลงใจ
|
That all Judea spake
the damsel's praise.
|
ลูกยูดาห์ ได้สรรเสริญศรีทาสี
|
He who had seen her
eyes' dark radiance
|
เขามองนี่ เนตรมืดมิด แม่สาวใช้
|
How quick it spake the
soul, and what a soul
|
สุดวิญญาณ ปราณประสาท เร็วอย่างไร
|
Beam'd in its mild effulgence,
woe was he!
|
เขาพิบัติรัก รอยยิ้มหล่อน
อ่อนโยนดี!
|
For not in solitude,
for not in crowds,
|
เพราะใช่ ต่างลำพัง ใช่ชนกลางหน
|
Might he escape
remembrance, or avoid
|
เขามิอาจขลาด จำทน ทุกหลบลี้
|
Her imaged form that
followed every where,
|
รูปแม่งาม ตามปองปลุก ทุกแห่งที่
|
And fill'd the heart,
and fix'd the absent eye.
|
จิตเติมเต็ม จิตใจรักษ์ ปักนัยนา
|
Woe was he, for her
bosom own'd no love
|
เขาพิบัติ! ขัดใจนาง ร้างรักเศร้า
|
Save the strong
ardours of religious zeal,
|
ใจร้อนเร้า แรงกล้า แก่ศาสนา
|
For Zillah on her God
had centered all
|
เพราะพระเจ้า จริงสิ่งสรรพ สุดซิลล่าห์
|
Her spirit's deep
affections. So for her
|
อานิสงส์ สืบวิญญาณ ปราณเพื่อเธอ
|
Her tribes-men sigh'd
in vain, yet reverenced
|
คนของเธอ ถอนใจไร้ค่า เคารพนัก
|
The obdurate virtue
that destroyed their hopes.
|
ธัมมารักษ์ ธรรมเนียมมั่น หมดหมายเพ้อ
|
One man there was, a
vain and wretched man,
|
ชายคนหนึ่ง ซึ่งไร้ค่า น่าสังเวชเนอ
|
Who saw, desired,
despair'd, and hated her.
|
ผู้เห็นหวัง สิ้นหวัง สาปศรีนาง
|
His sensual eye had
gloated on her cheek
|
เนตรเขาเยิ้ม ยลอยู่ แก้มนางรู้
|
Even till the flush of
angry modesty
|
จนจิตตู่ ตนใจถ่อม ถมเคืองค้าง
|
Gave it new charms,
and made him gloat the more.
|
ตัณหาเต็ม เติมสุขเอา เขาให้เครื่องราง
|
She loath'd the man,
for Hamuel's eye was bold,
|
เธอชังชาย ชั่งอุกอาจ ตา-ฮามูเอล
|
And the strong
workings of brute selfishness
|
เห็นแต่ชั่ว เห็นแก่ตัว ทั่วโหดร้าย
|
Had moulded his broad
features; and she fear'd
|
เขาชั่วล้วน เธอกลัวแล้ว ดีแหลกเหลว
|
The bitterness of
wounded vanity
|
ขมขื่นจินต์ สิ้นสาระ จะเจ็บเลว
|
That with a fiendish
hue would overcast
|
ด้วยดุร้าย ร่วมชีวิต ชีพมืดมล
|
His faint and lying
smile. Nor vain her fear,
|
แลรอยยิ้ม ลืมคำลวง ไม่หวั่นไหว
|
For Hamuel vowed
revenge and laid a plot
|
ฮามูเอลแผน แก้แค้นใคร่ เคืองสับสน
|
Against her virgin
fame. He spread abroad
|
สลายชื่อ สิ้นบริสุทธิ์ ส่งลือกล
|
Whispers that travel
fast, and ill reports
|
เร็วกระซิบ ป่วยฉิบหาย ขายข่าวกา
|
That soon obtain
belief; that Zillah's eye
|
ความเชื่อเช่น ชนลือมา ตาซิลลาห์เห็น
|
When in the temple
heaven-ward it was rais'd
|
เมื่ออยู่เป็น โบสถ์ฟ้ารักษ์ รักยิ่งบ้า
|
Did swim with
rapturous zeal, but there were those
|
ว่ายวนโลภ โมหะอ้าง บ้างคาใจจาก์
|
Who had beheld the
enthusiast's melting glance
|
เพราะแววตา พาละลาย อายหลงใจ
|
With other feelings
fill'd; that 'twas a task
|
อื่นรู้สึก ไม่เติมเต็ม ต่างหนีหาย
|
Of easy sort to play
the saint by day
|
เล่นมักง่าย งานนักบุญ เบื้องกาลใกล้
|
Before the public eye,
but that all eyes
|
ก่อนตาคน ตาแห่งชน ทุกหนไป
|
Were closed at night;
that Zillah's life was foul,
|
เสร็จสิ้น ยามค่ำย้ำ ซิลลาห์โทษ
|
Yea forfeit to the
law.
|
แท้แล้วนาง จำนนต่อ จารีตผิด
|
Shame—shame to man
|
วิปริต ผิดอัปยศ ยอดมนุษย์โหด
|
That he should trust
so easily the tongue
|
ชายชั่ว มั่วใช้ลิ้น ลือง่ายโคตร
|
That stabs another's
fame! the ill report
|
แทงทำลาย ขายคนอื่น! ยื่นข่าวกา
|
Was heard, repeated,
and believed,—and soon,
|
ยินพลันพูด ซ้ำซื่อเชื่อ—ใช่ว่าไหน
|
For Hamuel by most
damned artifice
|
ฝ่ายฮามูเอล อ้างเล่ห์ให้ เหี้ยมสาปฆ่า
|
Produced such
semblances of guilt, the Maid
|
ให้ทาสี มีผิดบาป สาปสำนึกมา
|
Was judged to shameful
death.
|
นางถูกให้ ประหารชีวิต ชีพละอาย
|
Without the walls
|
ไร้กำแพง
|
There was a barren
field; a place abhorr'd,
|
มีทุ่งแห้ง แล้งรังเกียจ
|
For it was there where
wretched criminals
|
เพราะเพนียดนี้ มีแต่ชั่ว บุญบัวสลาย
|
Were done to die; and
there they built the stake,
|
ที่นั่นพวกเขา สร้างเสา เผาเธอให้ตาย
|
And piled the fuel
round, that should consume
|
ทั้งก่อเพลิง กองรอบ ที่ขอบชิด
|
The accused Maid,
abandon'd, as it seem'd,
|
ทาสีเท็จโทษ แท้ดูดุจ ดังทิ้งเศร้า
|
By God and man. The
assembled Bethlemites
|
เบธเลเฮมเรา รวมพร้อมกัน นั้นเพราะพระฤทธิ์
|
Beheld the scene, and
when they saw the Maid
|
เห็นเหตุเกิด เห็นทาสีสนิท
|
Bound to the stake,
with what calm holiness
|
ผูกแล้วพัก หลักศักดิ์สิทธิ์ นิ่งสงบ
|
She lifted up her
patient looks to Heaven,
|
ทาสี อุตส่าห์มอง ส่องสวรรค์
|
They doubted of her
guilt. With other thoughts
|
ต่างสงสัย โทษนางนั้น บ้างคิดลบ
|
Stood Hamuel near the
pile, him savage joy
|
เหี้ยมฮามูเอล มองฟืนใกล้ ไหม้สุขจบ
|
Led thitherward, but
now within his heart
|
ในภายใน หัวใจเขา ใช่ที่ใด
|
Unwonted feelings
stirr'd, and the first pangs
|
ความรู้สึก ตกผลึกใจ แรกเจ็บช้ำ
|
Of wakening guilt,
anticipating Hell.
|
ตื่นผิดซ้ำ ตื่นตระหนก นึกนรกไหน.
|
The eye of Zillah as
it glanced around
|
ข้างสายตา ของซิลลาห์ แลมองไป
|
Fell on the murderer
once, but not in wrath;
|
แล้วเพชฌฆาต ก็ล้มเหลว ใช่ด้วยโกรธ
|
And therefore like a
dagger it had fallen,
|
ที่ร่วงหล่น ลงมา เหมือนกริชร้าย
|
Had struck into his
soul a cureless wound.
|
บาดวิญญาณ นานไม่หาย บาดแผลโหด
|
Conscience! thou God
within us! not in the hour
|
มโนธรรม! พระเจ้าในเรา! ไม่ในกาลโปรด
|
Of triumph, dost thou
spare the guilty wretch,
|
แห่งชัยชนะ ทรงละเว้น เศษเดนคน
|
Not in the hour of
infamy and death
|
ไม่ในกาล พาลอัปยศ ตายสลด
|
Forsake the virtuous!
they draw near the stake—
|
ทิ้งนักพรต! พวกเขาเข้า ใกล้เสาสับสน—
|
And lo! the torch!
hold hold your erring hands!
|
แลจริง! จับคบไฟ! ไว้มือผิดตน!
|
Yet quench the rising
flames!—they rise! they spread!
|
ไฟลุกโชน!—ช่วยดับใคร ใกล้เลยลา!
|
They reach the suffering
Maid! oh God protect
|
ต่างหานางร้อน วอนพระรักษ์
|
The innocent one!
|
พิสุทธิ์ศรี!
|
They rose, they spread,
they raged—
|
เกิดกุหลาบ ลาร้างราคี ทุกทิศา—
|
The breath of God went
forth; the ascending fire
|
แลลมปราณ ญาณพระเจ้า จบไฟนา
|
Beneath its influence
bent, and all its flames
|
ด้วยฤทธานุภาพ บำราบ เพลิงสยบ
|
In one long lightning
flash collecting fierce,
|
เมื่อฟ้าผ่า น่ากลัวเทียบ ทัณฑ์สวรรค์
|
Darted and blasted
Hamuel—him alone.
|
ผ่าเอกา ฮามูเอล—ไม่อาจหลบ
|
Hark—what a fearful
scream the multitude
|
เสียง—ฝูงชน คนกรีดร้อง ร่างถูกอบ
|
Pour forth!—and yet
more miracles! the stake
|
ดำเนินไป!—ปาฏิหาริย์ นานมากมาย!
|
Buds out, and spreads
its light green leaves and bowers
|
กุหลาบแตกหน่อ ก่อใบเขียว เกี่ยวลดาชี้
|
The innocent Maid, and
roses bloom around,
|
วิสุทธิ์ทาสี สวยกุหลาบ กลีบขยาย
|
Now first beheld since
Paradise was lost,
|
เห็นอีกครั้ง หลังสวนสวรรค์ สูญมลาย
|
And fill with Eden
odours all the air.
|
เติมกลิ่นดิน แดนอีเดน เต็มนภา
|