วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งโพธิสัตว์ทั้ง 4 ของจีน

 

ที่มา http://www.fengsuwang.com/minjian/minjian4555.asp

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ประทับของพุทธศาสนาในประเทศจีนเป็น 4 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วย (เหมือนความเชื่อเรื่องพุทธบาท)

1.พระกษิติครรภโพธิสัตว์ 

    👼 พระกษิติครรภโพธิสัตว์ หรือ“ต้าหยวนตี้จั้งผู่ซ่า"  大願地藏菩萨 จุติเป็นเจ้าชายกิมเคียวกักจากชิลลา (ดินแดนโบราณของเกาหลี) มาสำเร็จเป็นโพธิสัตว์ในจีนแล้วประทับอยู่บนเขาจิ่วหัวซาน (九華山) หรือ หัวซาน  ในประเทศจีน




ที่มา https://news.un.org/zh/story/2019/04/1032711

     💥 อดีตชาติในชมพูทวีป (ตำนานอินเดีย)

ในอดีตชาติพระตี้จั้งเคยเกิดเป็นธิดาพราหมณ์ มีบิดาชื่อ "ชีรชิณณพราหมณ์" มารดาชื่อ "ยัฏฐีลีพราหมณี" โดยบิดาได้ถึงแก่กรรมก่อน นางพราหมณีจึงอยู่กับมารดา แต่นางยัฎฐีลี เป็นผู้ไม่ชื่อบุญบาปไม่เคยทำความดีตายไปตกนรก นางพราหมณีรูปจึงทำบุญถวายทานเป็นการใหญ่วันหนึ่งได้บำเพ็ญภาวนาจนถอดดวงวิญญาณไปท่องในนรกเพื่อตามหามารดา และได้เห็นภาพที่น่าสงสารของสัตว์นรกต่าง ๆ จนพบกับนายนิรยบาลตนหนึ่งได้แจ้งให้รู้ว่านางยัฎฐีลีผู้มารดาได้หลุดพ้นจากนรกด้วยกุศลที่นางได้ทำให้แล้ว นางพราหมณีดีใจจึงต้องปณิธานว่าจะโปรดสัตว์นรกให้หมด ด้วยกุศลผลบุญชาติต่อมาได้เกิดเป็นเทพบุตรในสวรรค์

     💥 ชาติต่อมาในตำนานเกาหลี และจีน

แต่ต่อมาท่านต้องการโปรดสัตว์นรกจึงจุติจากสวรรค์มาเป็นเจ้าชายกิมเคียวกัก (金喬覺) แห่งแคว้นชิลลาของประเทศเกาหลีในสมัยโบราณ ต่อมาท่านได้พบกับสุนัขขาวตัวหนึ่ง ซึ่งก็คือนางยัฎฐีลีกลับชาติมาเกิดจึงได้กลายเป็นเพื่อนกัน และเดินทางมาสู่จีนเลือกภูเขาจิ่วหัวซาน เป็นที่โพธิมณฑลบรรลุธรรมสำเร็จเป็นพระกษิติครรภโพธิสัตว์ หรือ ตี้จั้งผู่ซ่า ผู้โปรดสัตว์ในนรก ส่วนสุนัขขาวก็ได้สำเร็จธรรมได้กลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มีเขาหนึ่งเขางอกขึ้นที่กลางหน้าผาก มีร่างกายเป็นมังกร มีหัวเป็นเสือ มีเท้ากิเลน แต่หูยังคงเป็นหูสุนัข เป็นพาหนะของพระตี้จั้ง ชื่อ “ทีเทีย” หรือ “ตี้ทิง” 谛听 เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เขาเดียวในนรกที่มีญาณวิเศษรู้ทุกอย่างในโลกมนุษย์

    💥 วรรณคดีเรื่องไซอิ๋ว หรือ ซีโหยวจี ของจีน

ตอนนี้ลิงหกหูปลอมเป็นซุนหงอคงราชาวานร ก่อความวุ่นวายต่าง ๆ แม้แต่เจ้าแม่กวนอิมใช้ตาทิพย์พันตาก็แยกไม่ออก แต่ “ตี้ทิง”สัตว์ศักดิ์สิทธิ์พาหนะของพระตี้จั้งนี้สามารถแยกออกได้ทันทีแต่ว่ากลัวว่าลิงหกหูจะหนีไปเลยให้ ซุนหงอคงพาลิงหกหูไปหาพระยูไล (สัมโภคกายของพระศากยมุนี) ตัดสินจะได้จับลิงหกหูไว้ไม่ให้หนีไปได้

2.พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ 

    👼 อวตารเป็นเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน แล้วสำเร็จเป็น กวนซืออิมผู่ซ่า觀世音菩薩 ประทับอยู่บนเขาผู่ถัวซาน (普陀山




ที่มา http://www.zhoushan.cn/qdx/putuo/putuoshan/fengturenqing/201503/t20150330_706063.html

      💥 ในวรรณคดีเรื่องไซอิ๋วหรือซีโหยวจีพระแม่กวนอิมมีบทบาทอย่างมากในการช่วยเหลือและให้คำปรึกษากับพระถังซำจั้งในการเดินทางไปชมพูทวีป ส่วนในวรรณคดีจีนเรื่องห้องสิน หรือ เฟิงเฉินปัง  เจ้าแม่กวนอิม หรือ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเป็น 1 ใน 12 เซียนเทพของนักพรตเต๋าจากเขาคุณหลุนชื่อ "ฉือหังเต้าเหยิน" (慈航道人) มีอาวุธคือคนโฑหยกและกระจก ลงมาช่วยเจียงจื่อหยาทำลาย 10 ค่ายกลสังหารเซียนของมหาเทพเซียนทงเทียนเจี้ยวจู่ (ปรมาจารย์เซียนยุคที่สอง) ซึ่งฉือหังเต้าเหยินรับหน้าที่ทำลายค่ายกลหนึ่งและปราบเจ้าของค่ายกลได้สำเร็จ เซียนจินกวงที่เป็นลูกศิษย์ของทงเทียนเจี้ยวจู่ แล้วเซียนจินกวงก็กลับร่างกลายเป็นราชสีขนทอง ฉือหังเต้าเหยินก็เลยจับมาเป็นพาหนะ

3.พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ 

    👼 หรือ เหวินซูซือลีผู่ซ่า文殊師利菩薩  ประทับอยู่บนเขาอู่ไถซาน (五台山) หรือไถซาน




ที่มา https://www.sohu.com/a/446162751_120437799

     💥 ในวรรณคดีเรื่องไซอิ๋วหรือซีโหยวจี พระมัญชุศรี (เหวินซูซือลีผู่ซ่า 文殊師利菩薩 หรือบุ่งซู้ผ่อสัก 文殊菩薩) มีบทบาทในการส่งราชสีห์ขนสีฟ้า (獅猁怪 หรือ 青毛獅子) มาลงโทษพระราชาโอเกยก๊ก โดยราชสีห์ขนฟ้าได้แปลงมาเป็นจินเต้าหยินช่วยเรียกฝนให้เมืองโอเกยก๊ก (烏雞國) จนเป็นที่โปรดปราน วันหนึ่งได้หลอกผลักพระราชาตกไปตายในบ่อน้ำ แล้วแปลงเป็นพระราชาอยู่นาน 3 ปี ต่อมาวิญญาณของพระราชาก็ปรากฎในฝันของพระถัง และขอให้พระถังช่วยเหลือ เห้งเจียกับโป๊ยก่ายเลยช่วยดึงศพขึ้นมาจากบ่อนำ้ และใช้ยาวิเศษของ มหาเซียนเทพไท้เสียงเหล่าจุน เพื่อนำชีวิตของพระราชากลับคืนมา และเปิดเผยความจริง แต่ปีศาจกลับแปลงกลายเป็นพระถัง ทำให้มีพระถัง 2 คน เห้งเจียออกอุบายว่า ใครเป็นตัวจริงจะต้องร่ายมนตร์บีบศีรษะของเห้งเจียได้ เมื่อตัวปลอมทำไม่ได้ เห้งเจียก็เงื้อกระบองจะฟาด แต่พระโพธิสัตว์บุ่งซู้ผ่อสัก (พระมัญชุศรีโพธิสัตว์) ก็ปรากฏตัวขึ้น แล้วเล่าว่า “แท้จริงแล้วเป็นสิงโตนิลพาหนะของพระองค์เอง ที่พระองค์ส่งมาเพื่อลงโทษ พระราชา” ครั้งนี้จึงขอให้แล้วต่อกันไป แล้วคณะก็เดินทางต่อไป และตอนปราบที่ปราบสามปีศาจคือ พระยาราชสีห์ ชิงเหมา (青毛) พระยาช้าง หวงเหยา (黃牙) และพญาอินทร์ต้าเผิง (大鵬) แห่งภูเขาไซท่อซัว ณ ถ้ำ ไซท่อต๋อง โดยพระยาราชสีห์ก็เป็นพาหนะของพระบุนซู้ผู่ซ่า /เหวินผู่ซ่า พระมัญชุสีอีกเช่นกัน

    💥 ในห้องสิน เหวินชูก๋วงฝ่าเทียนจุน หรือบุนซูกงฮวดเทียนจุน (文殊廣法天尊) เป็น 1 ใน 12 เซียนแห่งเขาคุนหลุนผู้เป็นอาจารย์ของ จินจา หรือ กิมเฉีย (金吒) หรือ หลี่ฮู้กิมเฉี้ย (李府金吒) ลูกชายคนโตของลี่จิ้ง พี่ชายของนาจา นอกจากนี้ในตอนที่มหาเซียนเทพทงเทียนเจี้ยวจู่ (ปรมาจารย์แห่งยุคที่ 2) ลงมาตั้งค่ายกลสังหารเซียนสกัดทัพของเจียงจื่อหยา เหวินชูก๋วงฝ่าเทียนจุนท่านก็เป็น 1 ในนักพรต 12 ตนที่ลงมาช่วย ทำลายค่ายกลย่อยชื่อ “ค่ายหลอมจักรวาล” แล้วจับ "ฉิวโซ่เซียน" (ราชสีห์ขนนิลแปลง) ศิษย์ทงเทียนเจี้ยวจู่ที่ดูแลค่ายกลได้ หยวนสื่อเทียนจุน (ปรมาจารย์แห่งยุคที่ 1) ก็สบัดแส้ให้ฉิวโซ่เซียนกลับร่างเดิมเป็นราชสีห์ขนนิลแล้วมอบให้เป็นพาหนะของเหวินซูก๋วงฝ่าเทียนจุน

4.พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ 

   👼 หรือ ฝู่เสี้ยนผู่ซ่า  普賢菩薩  ประทับอยู่บนเขาเอ๋อเหมยซาน หรือง้อไบ๊ซาน (峨眉山) หรือ เขาง้อไบ๊

 




        💥 ในวรรณคดีเรื่องไซอิ๋ว หรือซีโหยวจีพระโพธิสัตว์ผู่เสี้ยนผู่ซ่า 普賢菩薩ปรากฎตัวครั้งแรกตอนทดสอบพระถังซัมจั๋งและลูกศิษย์หลังข้ามแม่น้ำหลิวซาเหอ (พร้อมกับเจ้าแม่กวนอิมและมัญชุศรี) และตอนปราบสามปีศาจ 1 ในสามปีศาจแห่งภูเขาไซท่อซัว ณ ถ้ำ ไซท่อต๋อง (พระยาราชสีห์ชิงเหมา พระยาช้างหวงเหยา และพญาอินทร์ต้าเผิง) คือ พระยาช้าง หวงเหยา (黃牙) หรือ หวงเหยาเหล่าเซียง (黃牙老象) ซึ่งเป็นพาหนะของผู่เสี้ยนผู่ซ่า หรือพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ 
        💥 ในวรรณคดีเรื่องห้องสิน หรือเฟิงเฉินปัง 封神榜 มีเซียน 1 ใน 12 เซียนแห่งเขาคุนหลุนชื่อว่า 普賢真人 ฝู่เสียนเจิ้นเหยิน /เผาเหียนจินหยินนี้ก็คือ ผู่เสี้ยนผู่ซ่า / โผ่วเฮี้ยงผ่อสัก (普賢菩薩) หรือ พระสมันตภัทรมหาโพธิสัตว์ ผู้เป็นอาจารย์ของมู่จา หรือ บกเฉีย (木吒) หรือ ลี่ฮู้บกเฉี้ย (李府木吒 ลูกของลี่จิ้ง และเป็นพี่ชายคนรองของนาจา ) ฝู่เสียนเจิ้นเหยินเป็นผู้ช่วยเจียงจือหยาทำลายค่ายประหารเซียนของมหาเซียนเทพทงเทียนเจี้ยวจู่ (ปรมาจารย์แห่งยุคที่ 2) ที่มีศิษย์คือหลี่เหยาเซียน 灵牙仙 (อสูรช้างเผือกแปลง) ผู้ดูแลค่ายกลย่อยได้ แล้วหยวนสื่อเทียนจุน (ปรมาจารย์แห่งยุคที่ 1) ก็สบัดแส้ให้หลี่เหยาเซียนกลับร่างเดิมเป็นช้างเผือก แล้วมอบให้เป็นพาหนะของฝู่เสียนเจิ้นเหยิน (พระสมันตภัทรโพธิสัตว์)


......................................................


...........................

หมายเหตุ ในเรื่องไซอิ๋วคือสัมโภคกายของพระศากยมุนี ตามความเชื่อมหายานแม้ทรงปรินิพพานไปแล้วแต่สัมโภคกายยังดำรงอยู่ เพื่อฟังเสียงสวดมนต์ของสรรพสัตว์

2 ความคิดเห็น: